เพื่อนแท้
ในโลกแห่งความเป็นจริง เราอาจมีเพื่อนหลายคน ทุกคนต่างมีนิสัยไม่เหมือนกัน มีการปฏิบัติต่อกันอย่างแตกต่าง ขึ้นอยู่กับกรอบความสัมพันธ์ และคุณค่าที่ถูกสร้างขึ้นต่อกัน ไม่ว่าจะต่างเพศ ต่างวัย เราก็เหมาเอาเป็นเพื่อนของเรา เพราะนิยามคำว่า"เพื่อน" ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตที่กำลังดำเนินอยู่ เราก็จะตีความและตัดสินใจจากอารมณ์ของเราในขณะนั้น ต่อพฤติกรรมที่เพื่อนทำกับเราว่า ใครเป็นคนดี หรือเป็นคนไม่ดี ใครควรจะคบ ควรจะเก็บไว้ หรือควรเตะออกจากชีวิต บางคนอาจหายหน้าไปตลอดชีวิต, บางคนอาจยังใช้ชีวิตในสิ่งแวดล้อมเดียวกัน, บางคนก็ยังสร้างปัญหาให้กับเราอยู่ และบางคนก็ยังทำดีกับเราตลอดมา..... ในช่วงนั้นเราตัดสินจากสิ่งที่มองเห็นภายนอก เหมือนมองเห็นเฉพาะยอดภูเขาน้ำแข็งที่โผล่ขึ้นมาเพียงหนึ่งส่วน ยังเหลืออีกเก้าส่วนอยู่ใต้น้ำ ที่เรามองไม่เห็น นั่นคือ การซ่อนตัวตนแท้จริงไว้ ไม่แสดงออก ไม่เปิดเผยอีกด้าน (dark side) ให้เราได้รับรู้ รวมถึงตัวเราเองก็เป็นเช่นกัน ดังนั้น ความเป็นเพื่อนจึงไม่ได้ แปลว่าเราจะต้องรู้และเข้าใจนิสัยจริงๆของเพื่อนทุกเรื่อง ยิ่งในปัจจุบัน ทุกคนต่างเปิดเผยเฉพาะเปลือกนอก ด้านดีเข้าหากัน แอบซ่อนสิ่งร้ายๆ ความเจ็บปวด ความทุกข์ไว้กับตัว...ไม่อยากให้ใครได้รู้ ยกเว้นอาจมีบางคน หรือเป็นคนพิเศษไม่กี่คนที่สามารถให้เราได้รับรู้ ทุกคนต่างตระหนักดีว่า การทำเปลือกนอกให้ดูดี จะทำให้มีคนอยากคบหา คนส่วนใหญ่ไม่ชอบเป็นเพื่อนกับคนที่มีปัญหา(ฐานะไม่ดี,ยากลำบาก,มีหนี้สิน,...) คนที่ไม่ให้ประโยชน์หรือมีประโยชน์น้อย,... ส่วนใหญ่ที่เรียกว่า "เพื่อน" ก็เป็นเพียงคนที่เข้ามาในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งในชีวิต ยิ่งในช่วงแรกที่คบกัน จะมองไม่ค่อยเห็นด้านไม่ดีของกัน หรืออาจมองเห็นแต่ก็ยอมรับได้ ส่วนจะพัฒนาความสัมพันธ์ไปถึงระดับ เพื่อนแท้ เพื่อนรัก เพื่อนสนิท ต้องใช้เวลา ซี่งก็ไม่แน่นอน เปลี่ยนแปลง ได้เสมอ เพื่อนรักอาจกลายเป็นศัตรู เพื่อนแท้อาจเปลี่ยนเป็นคนที่ไม่เคยรู้จักเลย เพื่อนสนิทอาจกลายเป็นคนที่อยากหลีกไกล ... บางคนคบมาหลายปียังไม่จึงรู้นิสัยจริง, บางคนจากกันไปแต่ยังคิดถึงเสมอ, บางคนเป็นแค่ความทรงจำ, บางคนพร้อมจากไป, บางคนทำให้เห็นความสำคัญบางสิ่งมากกว่า"รัก", บางคนเข้าใจไปเองว่ารู้จักดี แต่จริงๆแล้ว เราอาจกลายเป็นคนแปลกหน้าของเขา, บางคนเป็นผู้รับที่ดี เป็นผู้ให้ที่แย่ , บางคนเขามาเอาเปรียบ, .........ทั้งนี้อยู่ที่เรามีความเข้าใจ ยอมรับ และเลือกที่จะทำตัวอย่างไรต่อความสัมพันธ์ ไม่ว่าผลของความสัมพันธ์จะออกมาว่าเป็นเพื่อนแบบไหน เราต้องรอจนกว่า "เวลา" จะเปิดให้เห็นธาตุแท้ หรือตัวตนของเขาจริงๆ เมื่อนั้นเราก็จะเข้าใจและจัดเขาว่าอยู่ในเพื่อนกลุ่มไหน และควรจะปฏิบัติต่อเขาอย่างไร นิยามคำว่า"เพื่อนแท้"ของแต่ละคนต่างกัน อยู่ที่การให้ความสำคัญ ส่วนใหญ่จะพูดถึง การไม่ทอดทิ้งให้อยู่อย่างลำพัง ในยามที่ตกต่ำ ยากลำบาก หรืออยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน มีความปรารถนาดี ให้ความจริงใจต่อกัน.......
แล้วท่านล่ะ ได้นิยามของคำว่า "เพื่อนแท้" ของท่านคืออะไร? ลองตอบดู
สำหรับผม "เพื่อนแท้" คือ "คนที่ทำให้เรานึกถึงและมักจะอยู่ร่วมด้วยในทุกช่วงของชีวิตที่กำลังมีทุกข์หรือสุข โดยไม่หวังประโยชน์ใด" แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว แต่ในความเป็นจริง เพื่อนแท้ในนิยามนี้ หาได้ยากยิ่งนัก เพราะทุกคนต่างมีภาระกิจ มีความรับผิดชอบที่ต้องทำ มีการใช้บนเส้นทางชีวิตของตัวเอง จึงไม่มีใครอยู่ข้างเรา ที่ต้องมารับรู้ มาแบ่งปันได้ทุกช่วงเวลา ยกเว้นความสัมพันธ์แบบครอบครัว พ่อ แม่ สามี ภรรยา ลูก ..... ซึ่งโดยปกติ จะถูกบังคับให้ต้องอยู่ด้วยกัน ถึงแม้ในโลกปัจจุบันจะมีเทคโนโลยี่ทำให้คนสื่อสารได้สะดวก รวดเร็ว เชื่อว่าไม่สามารถมาทดแทนความรู้สึกของมนุษย์ได้ทั้งหมด โดยเฉพาะความสัมพันธ์ของมนุษย์ที่ซับซ้อนและไม่มีเหตุผล เพราะฉะนั้นตัวเราเองย่อมไม่สามารถแชร์ความรู้สึกได้อย่าง 100% ให้กับใครได้ ความรู้สึกบางส่วนอาจเก็บไว้ในกล่องลึกลับในใจ รอ"เวลาที่เหมาะสม" เพื่อเปิดกล่องให้เพื่อนได้รับรู้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเป็นตอนไหน ตอนเป็น ตอนจาก หรืออาจหายไปตลอดกาล จนอาจกล่าวได้ว่า "เพื่อนแท้" ของเรา ก็คือ "ตัวเราเอง"
การคบเพื่อนก็เหมือนแลกกันอ่านหนังสือชีวิตระหว่างกันและกัน นั่นคือการได้เรียนรู้ที่จะคบกันอย่างมีความสุข คำว่า "เพื่อนแท้" สำหรับบางคนอาจพูดออกมาได้ยาก ต้องผ่านการพิสูจน์อีกหลายอย่าง แต่บางคนอาจมองทุกคนเป็นเพื่อนแท้ ขึ้นอยู่กับการนิยามความหมายและการให้คุณค่าของแต่ละคน ไม่มีถูกหรือผิด เพราะมันคือการเลือกคนเข้ามาอยู่ในช่วงของการใช้ชีวิตของแต่ละคน ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับผลในการเลือก การมีเพื่อนแท้ เพื่อนที่ดี เป็นเรื่องที่โชคดี หากมีแล้ว ควรรักษาไว้ให้ดี ถือว่าเป็นสิ่งหายาก เป็นดั่งของขวัญที่ส่งให้เรา การเป็นเพื่อนที่ดีไม่ได้วัดกันที่ระยะเวลาที่คบกัน แต่วัดกันที่ความรู้สึกที่ดีๆที่มีต่อกันในช่วงเวลานั้นๆ เราต้องยอมรับว่าทุกคนล้วนมีข้อดีข้อเสีย รวมทั้งตัวเราเอง การยอมรับในสิ่งที่เป็น การให้อภัยกัน การประคับประคองความรู้สึกกันและกัน เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ความสัมพันธ์อยู่ยาวนาน คิดเสมอว่า การรักษาไว้ยากกว่าการหาใหม่ จงใช้เวลาในช่วงนั้นให้มีความหมาย เพราะจะกลายเป็นความทรงจำในอนาคตเมื่อนึกถึง และเมื่อเวลาผ่านไป ทุกสิ่งก็เข้าสู่ธรรมชาติของความเปลี่ยนแปลงตามที่ได้กล่าวไว้ในข้างต้น
มีบทความหนึ่ง ที่เปลี่ยนความคิดของผมเมื่อสิบปีที่ผ่านมา ทำให้การใช้ชีวิตที่ยังเหลืออยู่ รู้จักปล่อยวางมากขึ้น เข้าใจ ยอมรับต่อเรื่องของการเปลี่ยนแปลงมากขึ้น ทำให้หลุดพ้นจากความทุกข์ทางใจที่เกิดจากการยึดติด และที่น่าอัศจรรย์คือ ทำให้ผมนั่งสมาธิเห็นจิตของตัวเองครั้งแรก จากที่เคยนั่งมาหลายปี ข้อความที่ไม่ใช่คาถาปลุกเศกใดๆ แต่เป็นข้อความง่ายๆ ที่เราต้องเข้าใจด้วยตัวเอง ต้องคลิ๊กเอง โดยอาศัยฐานความรู้สึกที่ได้รับมา กับความเป็นจริงของสังขารในขันธ์5
พ่อหมูตู้